สัมผัสโลกใต้น้ำสุดอลังการที่ S.E.A. Aquarium
ทัวร์สิงคโปร์ ท่องเที่ยวสิงคโปร์
ดิ่งสู่มหาสมุทร...สัมผัสโลกใต้น้ำสุดอลังการที่ S.E.A. Aquarium
สิงคโปร์ ประเทศนี้มีอะไรมาเซอร์ไพรส์กันอีกแล้ว กับโปรเจ็คล่าสุด S.E.A. Aquarium ที่ได้ชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทางทะเลที่ ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดตัวสดๆ ร้อนๆ เมื่อต้นปีนี่เอง งานนี้บอกได้คำเดียว สินสมุทรทั้งหลายห้ามพลาด!
ภายใต้ผืนมหาสมุทรมหึมาที่ครอบคลุมโลกกลมๆ ของเราให้เป็นสีฟ้าครามนั้นช่างมีเสน่ห์น่าหลงใหลจนมนุษย์หลายคนอยากรู้ว่า โลกอีกใบใต้ท้องน้ำนั้นเป็นอย่างไร แต่จะให้ดำลงไปดูเองนั้น ต้องอาศัยทั้งเวลา ความกล้า และทักษะอีกล้านแปด เพื่อให้ประชาชนทุกผู้ทุกวัยได้รู้จักมหาสมุทรอย่างใกล้ชิด ประเทศร่ำรวยอย่างพี่ สโปร์ จึงเนรมิตรโลกใต้บาดาล S.E.A. Aquarium หรือ South East Asia Aquarium ขึ้นที่โซนMarine Life Park ใน Resort World Sentosa แล้วอัญเชิญประชากรสัตว์น้ำกว่า 800 สายพันธุ์ ราว 100,000 ชีวิต มาไว้ในแท็งค์ขนาดยักษ์ที่จะทำให้คุณรู้สึกตัวเล็กจิ๋วจนเหมือนอยู่ในโลกใต้มหาสมุทรจริงๆ ว่าแล้วอย่ารอช้า เราขอบุกเข้าไปดูเลยดีกว่า
The Journey Starts
S.E.A. Aquarium แห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็น 10 โซน โดยแต่ละโซนจะตั้งชื่อตามมหาสมุทรและท้องทะเลต่างๆ หากจะเข้าอะควาเรียมแห่งนี้ ต้องเดินเข้าผ่านทางพิพิธภัณฑ์ Maritime Experiential Museum & Aquarium (MEMA) ซึ่งในห้องสุดท้ายของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะฉายภาพยนต์เล่าเรื่องการอับปางของเรือเดินสมุทรลำหนึ่ง เมื่อเดินออกจากห้องนั้นมา ก็จะเข้าถึงโซนแรกของอะควาเรียม ที่ชื่อว่า Strait of Karimata and Java Sea (ใกล้ๆ เกาะสุมาตรา) เปิดตัวแบบแกรนด์ๆ ด้วยอุโมงค์แก้วเผยให้เห็นซากเรืออับปาง ซึ่งเชื่อมต่อกับฉากจบของภาพยนต์ใน MEMA โดยในห้องนี้จะเล่าถึงการปรับตัวของสัตว์น้ำในทะเลที่เข้ามาอาศัยในซากเรือที่จมลง
ต่อกันด้วยโซนที่ 2 คือ Strait of Malacca and Andaman Sea (ช่องแคบมะละกาและทะเลอันดามัน) ที่จะทำให้เราต้องตื่นเต้นไปกับพื้นทางเดินกระจกใสกิ๊งจนเห็นปลากระเบนว่ายผ่านไปใต้เท้า ได้อารมณ์เดินบนน้ำ ส่วนตู้ปลาข้างๆ เป็นแท็งค์น้ำทรงกลมขนาดใหญ่เบิ้ม โชว์ปะการังและปลาเล็กปลาน้อยหลากสี แอบมีช่องเลนส์ซูมกลมๆ ติดไว้ให้เราส่องดูเจ้าม้าน้ำได้ในระยะประชิด มาถึงโซนนี้แล้วต้องไม่ลืมโฉบเข้าไปมุมDiscovery Touch Pool ที่เราชอบมากๆ เพราะเขามีตู้ปลาเตี้ยๆ เปิดด้านบนไว้โชว์สัตว์ทะเลบางชนิดที่หาพบได้ยาก เช่น ปลาดาวและหอยแม่น ไว้ให้เราดูอย่างใกล้ชิด แถมจับต้องลูบคลำได้ โซนนี้เรียกว่าถูกใจเด็กๆ และผู้ใหญ่อีกหลายคน เพราะน้อยครั้งที่เราจะมีโอกาสจับปลาดาวเป็นๆ Discovery Touch Pool จึงกลายเป็นมุมฮิตเรียกความสนุกสนานจากทุกคนได้เป็นอย่างดี
โซนที่ 3 Bay of Bengal and Laccadive Sea จะรวบรวมปะการังสีสวยสดใสหลากสายพันธุ์ รวมทั้งป่าโกงกางในแถบอ่าวเบงกอล และน่านน้ำแถวอินเดีย-ศรีลังกาไว้ให้เราชมกัน ส่วนโซนที่ 4 คือ Ocean Journey ที่จำลองชีวิตของสิ่งมีชีวิตในทะเลลึกที่หาชมได้ยากอย่าง ปูแมงมุมยักษ์ (Giant Spider Crab) หรือ หอยนอติลุสจักรพรรดิ (Emperor Nautilus) มาให้เห็นจะๆ ตบท้ายด้วยฝูงแมงกระพรุนหลาก

Fantasy under the Sea
และแล้วก็ถึงไฮไลท์เด็ดของที่นี่ โซนที่ 5 Open Ocean ที่ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงไปกับแทงค์น้ำมโหฬารสุดๆ ด้วยความสูง 8.3 เมตร ยาว 36 เมตร ว่ากันว่ากระจกต้องมีความหนาถึง 70 เซนติเมตร เพื่อบรรจุน้ำมหาศาลขนาด 45 ล้านลิตร เรียกว่าอลังการสมกับที่โปรโมท ที่ประทับใจเป็นพิเศษคือการแบ่งจุดยืนชมเป็น 3 ระดับ ตามความสูงที่ลดหลั่นกันไป ทำให้เราสามารถมองดูทะเลเบื้องหน้าได้ 3 มุม 3 อารมณ์ แถมยังมี beanbagsจำนวนมากวางไว้ทั่วห้องเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ชม เราจึงสามารถนั่งเล่นหรือจะเอนหลังนอนชมแทงค์น้ำสีฟ้าและสัตว์ทะเลนานาชนิดได้อย่างเพลิดเพลิน จะนอนจะกลิ้งกันนานแค่ไหนก็ไม่มีใครว่า นอกจากนี้ยังมีมุมที่เป็นห้องกระจกเล็กๆ ยื่นเข้าไปในแทงค์น้ำ ได้อารมณ์ไปยืนอยู่กลางทะเลที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำ รู้สึกได้เป็นลิตเติ้ลเมอร์เมดเล็กๆ ปิดโซนกันด้วยห้อง Ocean Dome ที่มีหลังคาทรงโค้งเป็นกระจกใสสูง 9 เมตร ทำให้คุณๆ ได้เห็นวิวทะเลเบื้องบนแบบ 180 องศา
จากนั้นเข้าสู่โซนทะเลอีก 4 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 6 Arabian Gulf and Arabian Sea, โซนที่ 7 Red Sea, โซนที่ 8 East Africa, และโซนที่ 9 South China Sea ที่ส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยปะการังรูปร่างแปลกตามากมายหลายพันธุ์ สีสันสวยสดใส น่าตื่นตาตื่นใจ รวมไปถึงสัตว์ทะเลหน้าตาประหลาดอย่างปลาลิ้นหมา ปลาปักเป้า และปลาสิงโตด้วย
ปิดท้ายกันด้วยโซนที่ 10 Shark Seas ที่รวบรวมฉลามหลากชนิดไว้ให้เราได้ชมกัน ไม่ว่าจะเป็น ฉลามพยาบาล (Nurse Shark) ฉลามครีบดำ (black tip sharks) รวมไปถึงซุปตาร์ปลาฉลามอย่าง ฉลามหัวค้อน ที่ว่ากันว่ามีมากถึง 11 ตัว แต่ดูเหมือนฉลามเธอจะขี้อาย ออกแนวหลบๆ ซ่อนๆ หรือแทงค์จะใหญ่เกินไป ทำให้เราเห็นไม่เกิน 5 ตัวที่แหวกว่ายไปมา ที่สำคัญฉลามแต่ละตัวยังดูเป็นฉลามเด็กตัวจิ๋ว สอบถามได้ความมาว่า สัตว์ทะเลที่นี่ เขาจะนำมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กเพราะสามารถปรับตัวให้ชินกับสภาพสิ่งแวดล้อมของอะควาเรียมได้ดีกว่า คงต้องรออีกสักหน่อยจึงจะได้เห็นฉลามตัวเบิ้ม


ก่อนออกจากอะควาเรียมแห่งนี้ อย่าลืมแวะชมดิสเพลย์คลังสมบัติที่ขุดได้ตามใต้ท้องทะเล จำพวกถ้วยโถโอชามโบราณ แถมด้วยนิทรรศการต่างๆ ที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาจัดให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันอย่างเพลิดเพลิน ต้องบอกว่าโดยรวมแล้วอะควาเรียมนี้ทำได้ดีมาก โดยเฉพาะการจัดวางและการตกแต่งที่สวยงามน่าชม อย่างส่วนของแทงค์น้ำทรงกลมหรือโซนโชว์ปะการังซึ่งเลือกสีสันและรูปแบบได้สวยตระการตามากๆ จนต้องหยุดยืนดูนานเลยทีเดียว หรือช่วงต่อของทางเดินในแต่ละโซน ก็ไม่ได้ปล่อยให้เป็นผนังว่างเปล่า แต่มีรูปปลาเล็กปลาน้อยเรืองแสงเรียงกันเป็นฝูงเหมือนว่ายส่งเราเข้าห้องถัดไป นอกจากนี้ห้องต่างๆ ก็กว้างขวางโปร่งโล่งสะอาดตาไม่ชวนให้อึดอัดอึมครึมเหมือนอะควาเรียมบางที่
ในแง่ของการให้ความรู้ ซึ่งถือว่าเป็นวัตถุประสงค์สำคัญของที่นี่ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยม ไม่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย เพราะแทนที่จะใช้ป้ายเขียนคำอธิบายแบบโบราณ ที่นี่ใช้วิธีจัดโชว์บนจอ LCD ข้างตู้กันเลยทีเดียว หรือบางส่วนมีบอร์ดยาวสีสันสดใสคอยเสริมความรู้และรายละเอียดเกี่ยวกับปลาแต่ละประเภทอย่างน่าชม สัตว์ทะเลก็มีมากมายมหาศาลหลากหลายประเภท เรียกว่าได้ทั้งความสวยงามและความรู้ไปพร้อมๆ กัน ส่วนใครกลัวหิวระหว่างเดิน สามารถแวะซื้อขนมขบเคี้ยวได้ที่โซนสแน็ค หรือถ้าต้องการอาหารชุดใหญ่มื้ออลังการ ที่นี่มีภัตตาคารธีมท้องทะเลอันหรูหราไว้บริการเช่นกัน หรือถ้าอยากจะจัดเต็มไปกว่านั้น เขามีห้องพักระดับ Suites 11 ห้องที่มีหน้าต่างติดกับแทงค์น้ำขนาดยักษ์ไว้บริการให้คุณได้ชมวิวใต้ท้องทะเลตลอด 24 ชั่วโมง
ช่างเป็นอะควาเรียมที่อิ่มตา อิ่มใจ และอิ่มท้องสียจริง
ค่าเข้าชม : 29 SGD (ราคารวม 2 พิพิธภัณฑ์คือ S.E.A. Aquarium และ Marine Experimental Museum เพราะอยู่ด้วยกัน)
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 am - 7.00 pm (เวลาอาจเปลี่ยนแปลงในบางวัน)
เช็คเวลาเปิดปิดและข้อมูลอื่นๆ ได้ที่ Website : http://www.rwsentosa.com/language/en-US/Attractions/MarineLifePark
|